อาร์เตต้า อาร์เซน่อลต้องทำ "บางสิ่งที่พิเศษ" หากหวังเข้าชิงแชมเปี้ยนส์ลีก

อาร์เตต้า อาร์เซน่อลต้องทำ “บางสิ่งที่พิเศษ” หากหวังเข้าชิงแชมเปี้ยนส์ลีก

อาร์เตต้า อาร์เซน่อลต้องทำ “บางสิ่งที่พิเศษ” หากหวังเข้าชิงแชมเปี้ยนส์ลีก

 

มิเกล อาร์เตต้า (Mikel Arteta) กระตุ้นให้อาร์เซน่อลทำ “บางสิ่งที่พิเศษ” เพื่อเอาชนะปารีส แซงต์-แชร์กแมง (Paris Saint-Germain) ในสัปดาห์หน้า หากต้องการผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก (Champions League final) sbobet play beer 789

 

อาร์เซน่อล (Arsenal) แพ้เกมรอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อคืนวันอังคารที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม จากประตูของ อุสมาน เดมเบเล่ (Ousmane Dembele) ในนาทีที่ 4 ซึ่งกลายเป็นประตูชัยให้ทีมเยือนกุมความได้เปรียบสำคัญ

 

อาร์เซน่อลไม่เคยคว้าแชมป์ถ้วยใหญ่ยุโรป และเคยเข้าชิงเพียงครั้งเดียวเมื่อปี 2006

 

อาร์เตต้าอ้างถึงเกมรอบก่อนรองชนะเลิศที่ทีมเอาชนะเรอัล มาดริด โดยชนะ 3-0 ในนัดแรกที่บ้าน และบุกไปชนะอีก 2-1 ที่ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เพื่อให้กำลังใจก่อนเกมเลกสองในวันพุธหน้า

 

“ถ้าคุณอยากเข้าชิงแชมเปี้ยนส์ลีก คุณต้องทำบางอย่างที่พิเศษ” เขากล่าว “เราต้องไปทำบางสิ่งที่พิเศษในปารีสเพื่อไปถึงจุดนั้น

 

“ตอนนี้มันเหมือนพักครึ่ง และข้อความของผมก็เหมือนเดิมกับตอนที่เราเจอเรอัล มาดริด – ตอนที่ชนะในบ้าน 3-0 เราต้องไปปารีสและชนะ เรามีศักยภาพพอที่จะทำได้

 

“ผมเห็นทั้งสองทีมเล่นได้ดีมาก แต่ทุกอย่างตัดสินกันที่รายละเอียดเล็กน้อย พวกเขาคมกว่าในจังหวะหน้าประตู และผู้รักษาประตูก็มีบทบาทสำคัญกับผลการแข่งขันในคืนนี้”

 

จานลุยจิ ดอนนารุมมา นายประตูของเปแอสเช เซฟลูกยิงสุดสำคัญสองครั้งในแต่ละครึ่ง จาก กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และ เลอันโดร ทรอสซาร์ ขณะที่ทีมของหลุยส์ เอ็นริเก้เกือบได้ประตูเพิ่มจากจังหวะที่ แบรดลีย์ บาร์โกล่า ยิงพลาดแบบจ่อ ๆ และ กอนซาโล่ รามอส ยิงชนคาน sbobet play beer 789

 

สิ่งที่ตอกย้ำถึงความยากของภารกิจนี้คือ สถิติที่ผ่านมา อาร์เซน่อลไม่เคยผ่านเข้ารอบได้เลย ใน 4 ครั้งก่อนที่พวกเขาแพ้นัดแรกในบ้านของรอบน็อกเอาต์แชมเปี้ยนส์ลีก

 

“เราพิสูจน์ตั้งแต่นาทีที่ 25 ว่าเราสู้ได้กับทุกทีม” ดาบิด ราย่า ผู้รักษาประตูของอาร์เซน่อลกล่าว “เราพิสูจน์มาตลอดฤดูกาลว่าเราชนะเกมเยือนได้ ดังนั้นเราจะไปปารีสในสัปดาห์หน้าเพื่อชนะเกมนั้น”

 

อาร์เซน่อลจะได้ โธมัส ปาร์เตย์ กลับมาช่วยทีมในเลกที่สอง หลังจากพ้นโทษแบนหนึ่งนัดเมื่อวันอังคาร.

 

ลูตัน ทาวน์

ลูตัน ทาวน์ เฉือนชัยเหนือ โคเวนทรี ซิตี้ ในเกมเดือด เพิ่มโอกาสรอดตกชั้น

ลูตัน ทาวน์ เฉือนชัยเหนือ โคเวนทรี ซิตี้ ในเกมเดือด เพิ่มโอกาสรอดตกชั้น
ลูตัน ทาวน์

แบ็ปติสต์ (Shandon Baptiste) ทำประตูชัยในนาทีที่ 90 พาทีม ลูตัน ทาวน์ คว้าชัยชนะอย่างดราม่าในเกมที่เต็มไปด้วยเหตุการณ์เดือดเหนือ โคเวนทรี ซิตี้ และทำให้พวกเขาทิ้งห่างโซนตกชั้นของ แชมเปี้ยนชิพ ไปสามคะแนน

ทั้งสองทีมจบเกมด้วยผู้เล่น 10 คน โดย สกาย บลูส์ ที่กำลังไล่ล่าตำแหน่งเพลย์ออฟ เสียผู้เล่นคนแรกเมื่อ ดาซิลวา (Jay Dasilva) ถูกไล่ออกจากสนามในนาทีที่ 13 ฐานขัดขวางโอกาสทำประตู

ลูตัน ทาวน์ ที่ตอนนี้มีโอกาสอยู่รอดสูงหลังจากเก็บชัยชนะสามนัดติดต่อกัน ได้เพิ่มแรงกดดันและมีโอกาสทำประตูหลายครั้ง โดยยิงโดนเสาถึงสองครั้ง

เกมกลับมาเท่ากันในแง่จำนวนผู้เล่นเมื่อเหลือเวลาประมาณ 20 นาที เมื่อ วอลช์ (Liam Walsh) ถูกไล่ออกจากการผลักใส่ บิงค์ส (Luis Binks) อย่างไร้เหตุผล

แต่หลังจากที่ ลูตัน ทาวน์ ตั้งสติกลับมาได้ แบ็ปติสต์ ได้ฉวยโอกาสจากความผิดพลาดระหว่างผู้รักษาประตู คอลลินส์ (Brad Collins) และ คิตชิ่ง (Liam Kitching) ยิงประตูสำคัญที่สุดและจุดชนวนการเฉลิมฉลองอย่างเหลือเชื่อจากโค้ช บลูมฟิลด์ (Matt Bloomfield) ท่ามกลางแฟนบอลที่แน่นขนัดที่ เคนนิลเวิร์ธ โรด

ภารกิจยังไม่เสร็จสิ้นแม้ว่า ลูตัน ทาวน์ จะขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 20 เนื่องจากทีมมีผลต่างประตูแย่กว่าคู่แข่งใกล้เคียงทั้งหมด

แต่พวกเขามีคะแนนเท่ากันกับ เพรสตัน นอร์ท เอนด์ และ อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด ที่อยู่อันดับ 18 และ 19 ก่อนที่ทั้งสองทีมจะลงเตะในเวลา 15:00 น. (เวลาอังกฤษ)

และทีมของ บลูมฟิลด์ ตอนนี้นำ ฮัลล์ ซิตี้ สองคะแนน และนำ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ สามคะแนน โดยที่สองทีมนี้ก็จะลงแข่งขันในวันเสาร์เช่นกันและหากใครไม่อยากพลาด ผลบอลmobi สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

ในส่วนของปลายตารางอีกด้านหนึ่งของดิวิชั่นที่น่าสนใจนี้ โคเวนทรี ซิตี้ พ่ายนอกบ้านเป็นครั้งที่สี่จากห้าเกมหลังสุด ทำให้พวกเขายังคงอยู่อันดับที่หก และความหวังในการคว้าตำแหน่งในท็อปซิกซ์จะต้องไปตัดสินในเกมเพลย์ออฟกับคู่แข่งอย่าง มิดเดิลสโบรห์

คามินสกี้ (Thomas Kaminski) ผู้รักษาประตูของ ลูตัน ที่ลงเล่นทั้งที่บิดาเสียชีวิตในสัปดาห์นี้ ไม่ต้องทำการเซฟเลย โดยที่ทีมของ แฟรงค์ แลมพาร์ด (Frank Lampard) ตกเป็นฝ่ายรับตั้งแต่เริ่มเกมและมีเพียงแค่สามครั้งที่ยิงไม่เข้ากรอบตลอดทั้งเกม

แรงกดดันไม่เคยลดลงหลังจากที่ ดาซิลวา ถูกไล่ออกอย่างน่าเสียดาย เขากำลังวิ่งกลับไปที่ประตูตัวเองแต่สะดุด อัลลี (Alli) โดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งหากไม่เกิดเหตุการณ์นี้ อัลลี จะได้เผชิญหน้าหนึ่งต่อหนึ่งกับผู้รักษาประตู คอลลินส์ (Bradley Collins) ทำให้เขาถูกไล่ออก

แลมพาร์ด ปรับเปลี่ยนแผนการเล่นอย่างรวดเร็ว โดยเปลี่ยน ซาคาโมโต้ (Tatsuhiro Sakamoto) ออกเพื่อให้ บิดเวลล์ (Jake Bidwell) แบ็คซ้ายลงมาแทน และหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ ลูตัน จะพยายามใช้ประโยชน์จากการมีผู้เล่นมากกว่าด้วยการเล่นแบบโจมตีความเร็วสูงและตรงไปตรงมาตามแบบฉบับของพวกเขา

โคเวนทรี ป้องกันด้วยการจัดทัพอย่างน่าประทับใจและความมุ่งมั่นในช่วงที่เหลือของครึ่งแรก และสามารถจำกัดโอกาสของ ลูตัน ไว้ได้

มอร์ริส (Carlton Morris) โหม่งออกไปเพียงหกหลาจากประตู การยิงอย่างแรงของ แอสกอร์ด (Thelo Aasgaard) ถูก คอลลินส์ ปัดออกไปอย่างยอดเยี่ยม อัลลี ยิงออกเป้า และการยิงที่ทรงพลังของ ดาโบ (Lamine Dabo) ถูกเบี่ยงออกไปจากอันตราย

รูปแบบการเล่นยังคงเป็นเช่นเดิมหลังจากกลับมาเล่นครึ่งหลัง คอลลินส์ ทำปฏิกิริยาอย่างรวดเร็วในการบล็อคความพยายามของ มอร์ริส และผู้รักษาประตูคนเดียวกันก็ทำการเซฟอย่างยอดเยี่ยมด้วยการปัดการยิงระยะ 25 หลาที่ทรงพลังของ วอลช์ ให้ไปโดนคานประตู ในขณะที่การยิงของ อัลลี ที่เปลี่ยนทิศทางไปนั้นไปโดนเสา

ใบแดงของ วอลช์ ซึ่งเป็นครั้งที่สามในฤดูกาลนี้ ทำให้จำนวนผู้เล่นเท่ากัน แต่หลังจากช่วงที่วุ่นวายซึ่งเห็น แลมพาร์ด โกรธเกรี้ยวที่ โจนส์ (Isaiah Jones) ของ ลูตัน ไม่ถูกไล่ออกจากการเตะออกไป แบ็ปติสต์ ก็เป็นผู้ทำประตูชัยสำคัญที่ทำให้ แฮตเตอร์ส เก็บได้ 18 คะแนนจากเก้าเกมหลังสุด

บลูมฟิลด์ โค้ชของ ลูตัน บอกกับ บีบีซี ทรี เคาน์ตี้ส์ เรดิโอ:

“อุตสาหกรรมที่เราเกี่ยวข้องนั้นจะโยนความท้าทายมากมายมาที่คุณ และคุณต้องพยายามรักษาความสงบและคิดอย่างชัดเจน”

“เรามีโมเมนตัม เรายิงโดนเสา ผู้รักษาประตูของพวกเขาทำการเซฟได้อย่างน่าทึ่งสองสามครั้ง แต่ลูกบอลไม่เข้าประตู จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดหวัง”

“สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดรวมเข้าด้วยกัน และการที่เราสามารถค้นพบช่วงเวลาสำคัญในตอนท้ายเกมนั้นเป็นเรื่องที่น่าพอใจอย่างเหลือเชื่อ”

“แบ็ปติสต์ เป็นเด็กหนุ่มที่ทำงานอย่างขยันขันแข็ง ผมคิดว่าเขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม และการที่เขามีช่วงเวลาสำคัญหลังจากความผิดหวังบางอย่างที่เขาเจอในปีนี้ ถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก”

คามินสกี้ ผู้รักษาประตูของ ลูตัน ระลึกถึงบิดาผู้ล่วงลับ:

“เขาอยู่ที่นั่นทุกวัน เขาผลักดันผมจนถึงขีดจำกัด เขาไม่เคยให้ผมหยุดพักแม้แต่วันเดียว”

“ก็เพราะเขาที่ผมอยู่ที่นี่ ก็เพราะเขาที่ผมมีอาชีพ เขาไม่ใช่คนพูดมาก แต่ตรงไปตรงมาในการสอนผมและพี่ชาย”

“เขาดูทุกเกมจนผมอายุ 18, 19, 20 ปี เขาไม่เคยพลาดการซ้อมแม้แต่ครั้งเดียว เขาทำงานในเวลากลางคืนเพื่อที่จะพาผมไปโรงเรียนและพาผมไปซ้อม เขาทำทุกอย่างเพื่อผม”

“สำหรับผม มันยากมาก เพราะผมเคยได้รับข้อความหลังจบเกม และผมจะไม่ได้รับข้อความนั้นอีกต่อไป แต่เขาจะอยู่กับผมตลอดไป”

แลมพาร์ด โค้ชของ โคเวนทรี บอกกับ บีบีซี ซีดับเบิลยูอาร์:

“เราทุ่มเทอย่างเต็มที่ เราสู้แม้มีผู้เล่นแค่ 10 คนเป็นเวลานาน ผมรู้ว่ามันเท่ากันในที่สุด แต่ความพยายามที่พวกเขาทุ่มเทต่อสู้กับทีมที่เล่นตรงๆ และเปิดบอลมาก เมื่อคุณมีผู้เล่นน้อยกว่า มันเป็นช่วงบ่ายที่ยาวนาน และจิตวิญญาณของเด็กๆ นั้นยอดเยี่ยมมาก”

“มันน่าจะเป็นใบแดง (สำหรับ ดาซิลวา) เขาบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ แต่เขาสะดุดส้นเท้าของอีกฝ่าย และผู้ตัดสินเกือบทุกคน แม้ว่าจะคาดเดายากในช่วงนี้ ก็จะให้สิ่งเหล่านั้น และเขาชูการ์ดอย่างรวดเร็ว”

“มีจิตวิญญาณที่ยอดเยี่ยมในกลุ่ม นั่นคือเหตุผลที่เราสามารถสะสมคะแนนและเลื่อนขึ้นตารางได้เพราะจิตวิญญาณมาก่อนคุณภาพ”

“ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปลี่ยนเกียร์จากความสิ้นหวังและการป้องกัน แต่ (หลังจากพวกเขาถูกไล่ออก) เราได้ครองบอลในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ไม่ได้สร้างโอกาสมากมาย แต่พวกเขาควรเหลือ 9 คนและผมคิดว่าเกมเป็นของเรา แต่คุณไม่สามารถคาดการณ์ความผิดพลาดในช่วงท้ายที่นำไปสู่ประตูของพวกเขา”

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ ลูตัน ทาวน์ มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และหากใครไม่อยากพลาด ผลบอลmobi สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

 

ชาบี อลอนโซ่

ซาบี อลอนโซ ขอไม่พูดถึงข่าวลือเกี่ยวกับ เรอัล มาดริด หลังกระแสข่าวกระพือหนัก

หลังจากการตกรอบอันน่าผิดหวังใน แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) ของ เรอัล มาดริด (Real Madrid) แฟนบอลมาดริดิสต้าเริ่มชี้นิ้วไปที่ผู้ที่ควรรับผิดชอบหลายคน หนึ่งในนั้นคือ คาร์โล อันเชล็อตติ (Carlo Ancelotti) อนาคตของเขาบนม้านั่งของทีมมาดริดดูเหมือนจะห่างออกไปทุกที และชื่อของผู้ที่อาจมาแทนที่เขาก็เริ่มปรากฏขึ้น ซาบี อลอนโซ (Xabi Alonso) กลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของแฟนบอลชุดขาว กุนซือชาวสเปนที่รับรู้ถึงข่าวลือเหล่านี้ได้กล่าวในการแถลงข่าวว่า: “สำหรับพวกเรา (ข่าวลือเกี่ยวกับ มาดริด) ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย เรามุ่งมั่นกับฤดูกาลที่เรากำลังเผชิญอยู่ เราต้องจำไว้ว่าฤดูกาลยังไม่จบ เรายังเหลืออีกห้าเกม บุนเดสลีกา (Bundesliga) ที่ต้องลงแข่ง และเราต้องคำนึงถึงสิ่งนี้ให้ชัดเจน ไม่ควรพูดถึงอนาคต ไม่ดีที่จะทำให้เราเสียสมาธิ เรื่องนี้ไม่สำคัญในตอนนี้ ผมไม่อยากพูดมากเกี่ยวกับการคาดเดา ข่าวลือ หรืออนาคต ผมไม่เคยทำแบบนั้นกับนักเตะหรือทีม มันไม่ดีต่อการเตรียมตัวที่เหมาะสม” อดีตนักเตะของ เรอัล มาดริด (Real Madrid) กล่าวสรุป ซาบี อลอนโซ (Xabi Alonso) แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในการแถลงข่าวว่าในขณะนี้เขากำลังมุ่งมั่นที่จะจบฤดูกาลกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (Bayer Leverkusen) ให้ดีที่สุด พวกเขายังมีโอกาสคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา (Bundesliga) โดยตามหลัง บาเยิร์น มิวนิค (Bayern Munich) อยู่หกคะแนนโดยเหลืออีกห้าเกม นอกจากนี้ โค้ชชาวบาสก์ยังมีสัญญากับทีมจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2026

 

ช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนสำหรับ เรอัล มาดริด (Real Madrid) และ ซาบี อลอนโซ (Xabi Alonso)

 

ความพ่ายแพ้ใน แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) ของ เรอัล มาดริด (Real Madrid) ต่อ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (Borussia Dortmund) ได้สร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับ คาร์โล อันเชล็อตติ (Carlo Ancelotti) ถึงแม้ว่าเขาจะเคยนำทีมคว้าแชมป์ยุโรปมาแล้วในอดีต แต่ความคาดหวังที่สูงของ เรอัล มาดริด (Real Madrid) หมายความว่าความล้มเหลวใดๆ มักจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ประธานสโมสร ฟลอเรนติโน เปเรซ (Florentino Perez) ได้เริ่มมองหาทางเลือกที่เป็นไปได้ และ ซาบี อลอนโซ (Xabi Alonso) ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด อดีตกองกลางทีมชาติ สเปน (Spain) ที่เคยลงเล่นให้กับ เรอัล มาดริด (Real Madrid) ระหว่างปี 2009 ถึง 2014 ได้พิสูจน์ตัวเองในฐานะหนึ่งในโค้ชที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในยุโรป สโบบอลเดี่ยว ภายใต้การนำของ อลอนโซ (Alonso) ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (Bayer Leverkusen) ได้พลิกโฉมจากทีมที่ต่อสู้เพื่อหนีการตกชั้นมาเป็นหนึ่งในทีมที่น่าเกรงขามที่สุดใน เยอรมนี (Germany) พวกเขาแสดงให้เห็นถึงฟุตบอลที่น่าตื่นตาตื่นใจและมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้พวกเขามีโอกาสลุ้นแชมป์ บุนเดสลีกา (Bundesliga) และ ยูโรป้า ลีก (Europa League) ความสำเร็จนี้ไม่ได้ผ่านสายตาของผู้บริหารที่ เรอัล มาดริด (Real Madrid) ไปได้ และการเชื่อมโยงระหว่าง อลอนโซ (Alonso) กับอดีตสโมสรของเขาก็เริ่มก่อตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม โค้ชวัย 42 ปียืนยันว่าเขายังคงมุ่งมั่นกับงานปัจจุบันของเขาที่ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (Bayer Leverkusen) “ผมเข้าใจว่าทำไมคนถึงพูดถึงเรื่องนี้ แต่ผมต้องการให้ทุกคนเข้าใจว่าผมทุ่มเทอย่างเต็มที่กับ เลเวอร์คูเซ่น (Leverkusen)” อลอนโซ (Alonso) อธิบาย “เรากำลังมีช่วงเวลาที่พิเศษมากๆ ที่นี่ และผมไม่ต้องการให้อะไรมาทำให้เราเสียสมาธิ ยังมีอีกหลายสิ่งที่เราต้องทำให้สำเร็จในฤดูกาลนี้”

 

ความท้าทายที่รออยู่สำหรับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น สำหรับการลุ้นแชมป์ บุนเดสลีกา

 

แม้ว่าจะมีช่องว่างหกคะแนนระหว่าง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (Bayer Leverkusen) และ บาเยิร์น มิวนิค (Bayern Munich) ในตารางคะแนน บุนเดสลีกา (Bundesliga) อลอนโซ (Alonso) ยังคงเชื่อว่าทีมของเขามีโอกาสที่จะคว้าแชมป์ลีก “เรารู้ว่ามันยาก แต่ในฟุตบอลทุกอย่างเป็นไปได้” อลอนโซ (Alonso) กล่าว “เรามีทีมที่พิเศษมากพร้อมกับนักเตะที่มีพรสวรรค์และทัศนคติที่ยอดเยี่ยม เราจะสู้จนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้ายของฤดูกาล” ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (Bayer Leverkusen) ยังคงเหลือเกมสำคัญกับ ดอร์ทมุนด์ (Dortmund) และ แฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt) ชัยชนะในเกมเหล่านี้จะเป็นสิ่งสำคัญหากพวกเขาต้องการกดดัน บาเยิร์น (Bayern) จนถึงวันสุดท้ายของฤดูกาล “เราต้องมุ่งเน้นที่ตัวเองและพยายามคว้าชัยชนะในทุกเกมที่เหลือ” อลอนโซ (Alonso) เน้นย้ำ “หากเราทำเช่นนั้นได้ เราจะดูว่าเกิดอะไรขึ้น เราไม่สามารถควบคุมสิ่งที่ บาเยิร์น (Bayern) ทำได้ แต่เราสามารถควบคุมผลงานของเราเอง” แม้ว่า อลอนโซ (Alonso) จะมีสัญญากับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (Bayer Leverkusen) จนถึงปี 2026 การเชื่อมโยงกับ เรอัล มาดริด (Real Madrid) ก็ยังคงแข็งแกร่ง ประวัติศาสตร์ของเขากับสโมสรในฐานะนักเตะและความสัมพันธ์ที่ดีกับ ฟลอเรนติโน เปเรซ (Florentino Perez) ทำให้เขาเป็นตัวเลือกที่น่าดึงดูด

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่ายังเร็วเกินไปสำหรับ อลอนโซ (Alonso) ที่จะก้าวไปสู่งานที่มีความกดดันสูงเช่นนั้น การสร้างชื่อเสียงของเขาที่ เลเวอร์คูเซ่น (Leverkusen) ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และอาจเป็นประโยชน์สำหรับเขาที่จะสั่งสมประสบการณ์มากขึ้นก่อนที่จะรับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่า สโบบอลเดี่ยว “ผมมีความสุขที่นี่ และมุ่งมั่นที่จะสร้างบางสิ่งที่พิเศษ” อลอนโซ (Alonso) ยืนยัน “ฟุตบอลเปลี่ยนแปลงเร็วมาก และไม่มีใครรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ผมมีความสุขกับสิ่งที่เรากำลังสร้างที่ เลเวอร์คูเซ่น (Leverkusen)” สำหรับตอนนี้ อลอนโซ (Alonso) ต้องการให้ความสนใจทั้งหมดอยู่ที่การจบฤดูกาลปัจจุบันอย่างแข็งแกร่ง ความสำเร็จกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (Bayer Leverkusen) จะเพิ่มชื่อเสียงของเขาเพิ่มขึ้นอีก และทำให้เขาอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไม่ว่าอนาคตของเขาจะนำพาเขาไปทางใด ในขณะเดียวกัน แฟนบอล เรอัล มาดริด (Real Madrid) ยังคงจับตาดูสถานการณ์ด้วยความสนใจอย่างใกล้ชิด พวกเขาหวังว่าอดีตนักเตะคนโปรดของพวกเขาอาจกลับมาในวันหนึ่งในฐานะผู้จัดการทีม และนำ โลส บลังโกส (Los Blancos) ไปสู่ความรุ่งโรจน์ในอนาคต แต่สำหรับตอนนี้ อลอนโซ (Alonso) ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่ปัจจุบันของเขาให้ดีที่สุด และสร้างมรดกของตัวเองในฐานะหนึ่งในโค้ชที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในยุโรป

ยิ่งใกล้วันจากลา ยิ่งเปล่งประกาย สำหรับ เควิน เดอ บรอยน์ หลังมีส่วนสำคัญ ในเกม คัมแบ็ค มีชัย เหนือ พาเลซ

เควิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne) เหลือเวลาอีกเพียงสามเกมที่จะได้ลงเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ที่สนาม เอทิฮัด สเตเดียม (Etihad Stadium) หากได้รับการคัดเลือกให้ลงสนาม นั่นหมายความว่าแฟนบอลของ ซิตี้ (City) จะมีโอกาสอีกเพียงสามครั้งที่จะได้ปรบมือให้เขายืนขึ้น เช่นเดียวกับที่พวกเขาทำเมื่อเขาถูกเปลี่ยนตัวออกโดย เจเรมี่ โดกู (Jeremy Doku) สามนาทีก่อนจบเกมในชัยชนะ 5-2 เหนือ คริสตัล พาเลซ (Crystal Palace) อีกสามโอกาสสำหรับ เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ที่จะได้แสดงความขอบคุณต่อแฟนๆ เหล่านั้นและโบกมือจากสนามไปยังลูกๆ ของเขา ซึ่งได้ชมการแสดงฝีเท้าขั้นเทพของเขาในแบบฉบับเดิม หนึ่งทศวรรษแห่งการรับใช้สโมสรกำลังจะสิ้นสุดลง ทั้งคำพูดและการกระทำ เดอ บรอยน์ (De Bruyne) มุ่งมั่นที่จะไม่ให้ช่วงเวลาของเขาที่ ซิตี้ (City) จบลงอย่างไม่สมศักดิ์ศรี “ผมอยากจะจากไปพร้อมกับการได้โควตา แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) สำหรับทีมนี้เพราะพวกเขาสมควรได้รับมัน”

 

เท้าคู่นี้บอกทุกอย่าง เควิน เดอ บรอยน์และมรดกอันยิ่งใหญ่ที่เขาทิ้งไว้ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

เควิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne) ไม่ใช่คนที่ชอบตะโกนหรือกรีดร้อง เขาไม่ได้อยู่ในแบบฉบับของกัปตันทีมอย่าง รอย คีน (Roy Keane) หรือ ปาทริค วิเอร่า (Patrick Vieira) ที่นำทีมด้วยการเรียกร้องอย่างเข้มข้นควบคู่ไปกับการทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม เขาไม่ได้เป็นนักกีฬาในแบบที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด (Steven Gerrard) เคยเป็น แต่เขาสามารถสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ จากความว่างเปล่าด้วยการผสมผสานระหว่างการรับรู้และการลงมือทำ เขาเป็นนักเตะที่มองเห็นโอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็น

จากนั้นเขาก็สามารถส่งมอบได้อย่างแม่นยำ สิ่งนี้ยกระดับเขาไปสู่ระดับของเกมที่แทบจะแยกออกจากผู้เล่นทุกคน นี่คือเหตุผลที่ว่า แม้การถกเถียงจะไร้ประโยชน์และไม่มี ‘ผู้ชนะ’ แต่เขาก็ต้องอยู่ในการสนทนาเกี่ยวกับนักเตะที่ดีที่สุดในยุค พรีเมียร์ลีก (Premier League) ซึ่งตอนนี้เข้าสู่ทศวรรษที่สี่แล้ว สโบเบ็ตออนไลน์ และนี่คือเหตุผลที่ว่า เมื่อถูกถามว่า เจมส์ แมคอาที (James McAtee) ซึ่งทำประตูได้ในการเริ่มต้นเกม พรีเมียร์ลีก (Premier League) ครั้งแรก อาจจะเติมเต็มรองเท้าของ เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ในฤดูกาลหน้าหรือไม่ คำตอบของ กวาร์ดิโอล่า (Guardiola) จึงเต็มไปด้วยความสงสัย สโบเบ็ตออนไลน์ “ไม่มีใครทำได้อย่างที่ เควิน (Kevin) ทำ” ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) กล่าว “เควิน (Kevin) มีพรสวรรค์ที่ไม่เหมือนใคร มีวิสัยทัศน์ในการส่งบอล เมื่อนักเตะอยู่ด้านหน้าและ เควิน (Kevin) มีบอล พวกเขารู้ว่าพวกเขาสามารถวิ่งได้เพราะบอลจะถูกส่งไปถึง” “เขาไม่ใช่ผู้นำที่ใช้คำพูด แต่ในเก้าปี เขาอยู่ที่นั่นทุกๆ สามวัน” มาดูกันว่าผมจะจบลงที่ไหนต่อไป’ ในไม่ช้า เขาจะไม่อยู่ที่นั่นอีกต่อไป อนาคตของ เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ยังเป็นที่ไม่ทราบแน่ชัด มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับ เมเจอร์ ลีก ซอคเกอร์ (Major League Soccer หรือ MLS) และล่าสุดคือ อินเตอร์ ไมอามี (Inter Miami) แม้ว่าในบางแง่มุม แนวคิดเกี่ยวกับ เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ในทีมเดียวกับ ลิโอเนล เมสซี่ (Lionel Messi) ดูเหมือนจะเป็นการสูญเปล่า เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเล่นเป็นรองใคร แม้แต่หนึ่งในผู้เล่นไม่กี่คนที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดกาล เขาจะหาข้อสรุปด้วยวิธีที่เงียบสงบของเขาเอง เดอ บรอยน์ (De Bruyne) แน่นอนว่ายังคิดว่าเขายังมีอะไรจะเสนอ “เป็นปีที่ยากลำบาก แต่ผมไม่มีอาการเจ็บปวดในช่วงหกสัปดาห์ที่ผ่านมาและนั่นทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมาก” เขาบอกกับ ทีเอ็นที สปอร์ตส์ (TNT Sports) “ผมไม่รู้ว่าผมจะรู้สึกอย่างไร [ในเกมสุดท้ายของผม] – ผมอยู่ที่นี่มานานมาก ลูกๆ ของผมเกิดที่ แมนเชสเตอร์ (Manchester) และใช้ชีวิตทั้งหมดที่นี่ มันจะแตกต่างสำหรับพวกเขา ผมคิดว่าพวกเขากลัวเล็กน้อย” “แต่ถ้าผมสามารถเล่นฟุตบอลและครอบครัวของผมมีความสุข ผมก็ดี ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่ผมต้องการเล่นต่อ ดังนั้นเรามาดูกันว่าผมจะจบลงที่ไหน”

 

เควิน เดอ บรอยน์  จักรวาลแห่งพรสวรรค์บนสนามหญ้า

 

ในโลกของฟุตบอลที่เต็มไปด้วยดาวเด่นมากมาย มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถครองตำแหน่งอันทรงเกียรติเหนือกาลเวลาได้ เควิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne) คือหนึ่งในนั้น กองกลางชาว เบลเยียม (Belgium) ผู้นี้ได้สร้างมรดกอันยิ่งใหญ่ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ตลอดระยะเวลาเก้าปีที่ผ่านมา ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกลและความสามารถในการส่งบอลที่แม่นยำราวกับมีเรดาร์ในสมอง ความยิ่งใหญ่ของ เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ไม่ได้อยู่ที่การแสดงออกทางอารมณ์หรือการตะโกนสั่งการบนสนาม แต่อยู่ที่การแสดงออกผ่านฝีเท้าอันยอดเยี่ยมของเขา ไม่เหมือนกับบรรดากัปตันในอดีตอย่าง รอย คีน (Roy Keane) หรือ ปาทริค วิเอร่า (Patrick Vieira) ที่นำทีมด้วยพลังและความดุดัน เดอ บรอยน์ (De Bruyne) นำด้วยการแสดงให้เห็นมากกว่าการพูด ทุกๆ การเคลื่อนไหว ทุกๆ การส่งบอล ล้วนเป็นบทเรียนสำหรับเพื่อนร่วมทีมและแฟนบอลที่ได้ชม เป็แเวลาเก้าปีที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ได้รับประโยชน์จากพรสวรรค์อันเหนือธรรมดาของเขา เขาไม่ได้เป็นนักกีฬาที่มีร่างกายกำยำบึกบึนอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด (Steven Gerrard) แต่สิ่งที่เขามีคือสมองอันชาญฉลาดที่มองเห็นช่องว่างและโอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็น และเท้าที่สามารถส่งบอลได้อย่างแม่นยำไม่ว่าจะอยู่ในระยะใดหรือมุมใด เมื่อ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (Pep Guardiola) ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ถูกถามว่า เจมส์ แมคอาที (James McAtee) ดาวรุ่งที่ทำประตูได้ในการเริ่มต้นเกม พรีเมียร์ลีก (Premier League) ครั้งแรก จะสามารถทดแทน เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ได้หรือไม่ในฤดูกาลหน้า คำตอบของเขานั้นชัดเจนและเต็มไปด้วยความเคารพต่อกองกลางชาว เบลเยียม (Belgium) “ไม่มีใครทำได้อย่างที่ เควิน (Kevin) ทำ” กวาร์ดิโอล่า (Guardiola) กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น “เควิน (Kevin) มีพรสวรรค์ที่ไม่เหมือนใคร มีวิสัยทัศน์ในการส่งบอล เมื่อนักเตะอยู่ด้านหน้าและ เควิน (Kevin) มีบอล พวกเขารู้ว่าพวกเขาสามารถวิ่งได้เพราะบอลจะถูกส่งไปถึง” เหล่านี้ไม่ใช่คำพูดที่เกินจริง แต่เป็นการยอมรับในความจริงที่ว่า เดอ บรอยน์ (De Bruyne) คือผู้เล่นที่พิเศษอย่างแท้จริง หากจะพูดถึงนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก (Premier League) ซึ่งตอนนี้ก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่สี่แล้ว ชื่อของ เควิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne) จะต้องถูกกล่าวถึงอย่างแน่นอน แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้นำที่ใช้คำพูด แต่การปรากฏตัวของเขาในทุกๆ สามวันตลอดเก้าปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทและความมุ่งมั่นที่เขามีต่อสโมสร นี่คือภาวะผู้นำในรูปแบบที่เงียบสงบแต่ทรงพลัง เมื่อฤดูกาลนี้สิ้นสุดลง เควิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne) จะจากไป ทิ้งให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) และแฟนบอลต้องหาทางปรับตัวกับชีวิตที่ไม่มีเขา อนาคตของเขายังคงเป็นที่คาดเดาไม่ได้ มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับการย้ายไปเล่นใน เมเจอร์ ลีก ซอคเกอร์ (Major League Soccer หรือ MLS) และล่าสุดคือ อินเตอร์ ไมอามี (Inter Miami) สโมสรที่มี ลิโอเนล เมสซี่ (Lionel Messi) หนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลร่วมทีมอยู่ อย่างไรก็ตาม หลายคนมองว่าการที่ เดอ บรอยน์ (De Bruyne) จะไปเล่นในทีมเดียวกับ เมสซี่ (Messi)อาจเป็นการสูญเปล่า เพราะนักเตะระดับเขาไม่ควรอยู่ในฐานะตัวประกอบให้กับใคร แม้แต่กับ เมสซี่ (Messi) เอง ในขณะที่โลกของฟุตบอลเฝ้ารอดูการตัดสินใจครั้งสำคัญของเขา เดอ บรอยน์ (De Bruyne) เองก็ดูเหมือนจะยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับอนาคตของตัวเอง แต่สิ่งหนึ่งที่เขาแน่ใจคือเขายังต้องการเล่นฟุตบอลต่อไป “เป็นปีที่ยากลำบาก แต่ผมไม่มีอาการเจ็บปวดในช่วงหกสัปดาห์ที่ผ่านมาและนั่นทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมาก” เขากล่าวกับ ทีเอ็นที สปอร์ตส์ (TNT Sports) “ผมไม่รู้ว่าผมจะรู้สึกอย่างไรในเกมสุดท้ายของผม – ผมอยู่ที่นี่มานานมาก ลูกๆ ของผมเกิดที่ แมนเชสเตอร์ (Manchester) และใช้ชีวิตทั้งหมดที่นี่ มันจะแตกต่างสำหรับพวกเขา ผมคิดว่าพวกเขากลัวเล็กน้อย” ความกังวลของลูกๆ ของเขาสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบที่การย้ายทีมของเขาจะมีต่อไม่เพียงแค่ชีวิตของเขาเอง แต่ยังรวมถึงครอบครัวของเขาด้วย อย่างไรก็ตาม เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ยืนยันว่า “แต่ถ้าผมสามารถเล่นฟุตบอลและครอบครัวของผมมีความสุข ผมก็ดี ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่ผมต้องการเล่นต่อ ดังนั้นเรามาดูกันว่าผมจะจบลงที่ไหน” ไม่ว่า เควิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne) จะเลือกไปเล่นที่ไหนต่อไป สิ่งที่แน่นอนคือมรดกที่เขาทิ้งไว้ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) จะไม่มีวันถูกลืม ในช่วงเวลาเก้าปีกับสโมสร เขาได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีพรสวรรค์มากที่สุดที่เคยเล่นในลีกอังกฤษ ด้วยวิสัยทัศน์ที่ไม่เหมือนใคร ความแม่นยำในการส่งบอล และความสามารถในการสร้างโอกาสจากความว่างเปล่า ในขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) เตรียมพร้อมสำหรับยุคหลัง เดอ บรอยน์ (De Bruyne) คำพูดของ กวาร์ดิโอล่า (Guardiola) ยังคงก้องอยู่ในใจของแฟนบอลทุกคน: “ไม่มีใครทำได้อย่างที่ เควิน (Kevin) ทำ” เพราะในโลกของฟุตบอลที่เต็มไปด้วยดาวเด่นมากมาย บางครั้งก็มีดาวดวงหนึ่งที่ส่องสว่างเหนือดวงอื่น ๆ และ เควิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne) คือหนึ่งในดวงดาวเหล่านั้น

 

เมมฟิส เดปาย

เดปายวิจารณ์ สมาคมฟุตบอลบราซิล ที่ห้ามใช้ทักษะยืนบนลูกฟุตบอล

เมมฟิส เดปาย (Memphis Depay) กองหน้าชาวดัตช์ของสโมสร คอรินเธียนส์ (Corinthians) ได้แสดงความไม่พอใจอย่างเปิดเผยต่อการตัดสินใจล่าสุดของ สมาคมฟุตบอลบราซิล (CBF) ที่ออกกฎห้ามนักฟุตบอลยืนบนลูกฟุตบอลระหว่างการแข่งขัน กฎใหม่นี้ระบุว่านักฟุตบอลที่ยืนบนลูกด้วยเท้าทั้งสองข้างจะถูกลงโทษด้วยใบเหลืองทันที และทีมคู่แข่งจะได้รับฟรีคิกทางอ้อม การประกาศนี้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้เล่นหลายคนรวมถึงเดปาย ซึ่งมองว่าเป็นการจำกัดความคิดสร้างสรรค์และทักษะในการเล่นฟุตบอล เหตุการณ์ที่นำไปสู่การออกกฎครั้งนี้เกิดขึ้นในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เปาลิสตา เอ1 (Paulista A1) ระหว่าง คอรินเธียนส์ และ ปาล์มไมรัส (Palmeiras) เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2025 เมื่อ เดปาย (Depay) ทำท่ายืนบนลูกฟุตบอลในช่วงทดเวลาบาดเจ็บใกล้ธงมุม หลังจากที่ทำท่าหลอกว่าจะเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ลีลาดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับผู้เล่น ปาล์มไมรัส (Palmeiras) อย่างมาก จนนำไปสู่การปะทะกันระหว่างทั้งสองทีม tek789 ความวุ่นวายดังกล่าวส่งผลให้ มาร์เซโล ลอมบา (Marcelo Lomba) ผู้รักษาประตูสำรองของ ปาล์มไมรัส (Palmeiras) และ โฮเซ่ มาร์ติเนซ (Jose Martinez) กองกลางของ คอรินเธียนส์ (Corinthians) ถูกไล่ออกจากสนามหลังจากที่ผู้ตัดสินได้ทบทวนสถานการณ์ผ่านระบบ VAR เป็นเวลานาน การทะเลาะวิวาทครั้งนี้ทำให้มีการเพิ่มเวลาทดเวลาบาดเจ็บถึง 18 นาที ซึ่งถือว่าผิดปกติอย่างมากสำหรับการแข่งขันฟุตบอล

 

สมาคมฟุตบอลบราซิล ร่อนจดหมายชี้ สกิลยืนบนลูกบอล ถือเป็นการยั่วยุและไม่เคารพคู่แข่ง

 

สมาคมฟุตบอลบราซิล (CBF) ได้ออกจดหมายชี้แจงไปยังสโมสรต่างๆ โดยระบุว่าการยืนบนลูกฟุตบอลเป็น “การยั่วยุคู่แข่งและแสดงความไม่เคารพต่อเกมการแข่งขัน”  จึงจำเป็นต้องมีบทลงโทษที่ชัดเจนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันอีกในอนาคต เดปาย (Depay) วัย 31 ปี อดีตกองหน้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) ไม่เห็นด้วยกับคำอธิบายนี้และได้แสดงความคิดเห็นผ่านบัญชี เอ็กซ์ (X) ของเขา โดยระบุว่า “ผมไปเล่นที่ บราซิล เพื่อสัมผัสประสบการณ์ โฆโก โบนิโต้ (Jogo Bonito) [เกมที่สวยงาม] ด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้ สมาคมฟุตบอลบราซิล tek789 ประกาศเมื่อวานนี้ว่าไม่มีนักเตะคนใดสามารถยืนบนลูกฟุตบอลได้ หรือนักเตะจะได้รับใบเหลือง” เดปาย (Depay) ยังเน้นย้ำว่าแม้ท่าทางดังกล่าวไม่ใช่ “ปัจจัยสำคัญในฟุตบอล” แต่เขา “ไม่เห็นปัญหา” กับการแสดงทักษะในลักษณะนี้ พร้อมชี้ให้เห็นว่า บราซิล เป็นประเทศที่มี “ความสามารถมากมาย” และ “ความสุขและความหลงใหลในการแสดงออกของเราในสนามไม่ควรถูกจำกัด” นักเตะชาวดัตช์ยังตั้งคำถามเกี่ยวกับคณะกรรมการของ สมาคมฟุตบอลบราซิล (CBF) ว่า “ใครกำลังตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของประเทศฟุตบอลที่สวยงามนี้?” พร้อมเรียกร้องให้มุ่งเน้นที่ “กฎที่สามารถพัฒนากีฬาและมุ่งเน้นที่ด้านธุรกิจของฟุตบอล สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสโมสร แฟนๆ และนักเตะ แทนที่จะเป็นประกาศที่ไร้สาระเหล่านี้” การสนับสนุนจากนักเตะคนอื่นและผลกระทบต่อวัฒนธรรมฟุตบอลบราซิล ความคิดเห็นของ เดปาย (Depay) ได้รับการสนับสนุนจากนักเตะดังคนอื่นๆ รวมถึง เนย์มาร์ (Neymar) ซุปเปอร์สตาร์ชาวบราซิลที่ปัจจุบันเล่นให้กับ ซานโตส (Santos) หลังจากกลับมาจาก อัล-ฮิลาล (Al-Hilal) ในซาอุดีอาระเบีย เนย์มาร์ (Neymar) ได้แสดงความไม่พอใจผ่านบัญชี อินสตาแกรม (Instagram) ของเขา โดยระบุอย่างสั้นๆ แต่ชัดเจนว่า “ฟุตบอลกำลังน่าเบื่อมากขึ้นเรื่อยๆ” ความขัดแย้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดระหว่างวัฒนธรรมฟุตบอลดั้งเดิมของ บราซิล ที่เน้นความคิดสร้างสรรค์ ทักษะส่วนบุคคล และความสนุกสนาน กับแนวทางการบริหารจัดการของ สมาคมฟุตบอลบราซิล (CBF) ที่มุ่งเน้นความมีระเบียบวินัยและการควบคุมเพื่อลดความขัดแย้งในสนาม บราซิล เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในด้านฟุตบอลที่สร้างสรรค์และน่าตื่นเต้น โดยมีตำนานอย่าง เปเล่ (Pele), การ์รินชา (Garrincha), โรนัลดินโญ (Ronaldinho) และ เนย์มาร์ (Neymar) ที่มีชื่อเสียงในการแสดงทักษะที่ทำให้แฟนบอลทั่วโลกตื่นตาตื่นใจ การที่ผู้เล่นสามารถแสดงความสามารถพิเศษในสนามถือเป็นส่วนสำคัญของอัตลักษณ์ฟุตบอลของ บราซิล ที่เรียกว่า “โฆโก โบนิโต้” (Jogo Bonito) หรือ “เกมที่สวยงาม” มุมมองที่แตกต่างและความท้าทายในการรักษาสมดุล อย่างไรก็ตาม มีหลายฝ่ายที่สนับสนุนการตัดสินใจของ สมาคมฟุตบอลบราซิล (CBF) โดยมองว่าการแสดงทักษะบางอย่างอาจนำไปสู่ความตึงเครียดและความรุนแรงในสนาม พวกเขาเชื่อว่าท่าทางที่อาจถูกมองว่าเป็นการเยาะเย้ยคู่แข่งควรถูกจำกัดเพื่อรักษาน้ำใจนักกีฬาและความเคารพซึ่งกันและกัน อเบล เฟอร์เรรา (Abel Ferreira) โค้ชของ ปาล์มไมรัส (Palmeiras) ที่พ่ายแพ้ในเกมนั้น แสดงความไม่พอใจอย่างมากกับการกระทำของ เดปาย (Depay) โดยกล่าวในการให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า “มีความแตกต่างระหว่างความสร้างสรรค์กับการไม่เคารพ ฟุตบอลเป็นเรื่องของการแสดงความสามารถ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตของความเคารพต่อคู่แข่ง” ความท้าทายสำหรับวงการฟุตบอลบราซิลและทั่วโลกคือการรักษาสมดุลระหว่างการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการแสดงทักษะกับการรักษาความเป็นมืออาชีพและน้ำใจนักกีฬา ในขณะที่มีผู้เล่นหลายคนต่อต้านการห้ามใช้ทักษะที่สร้างสรรค์ แต่พวกเขาก็ยอมรับว่าควรมีขอบเขตที่ชัดเจนเพื่อป้องกันไม่ให้เกมกลายเป็นการเผชิญหน้าที่รุนแรง

 

ผลกระทบต่ออนาคตของฟุตบอลบราซิล หลังมีการออกมาแบน สกิลฟุตบอลเช่นนี้

 

การตัดสินใจของ สมาคมฟุตบอลบราซิล (CBF) อาจส่งผลกระทบต่ออนาคตของฟุตบอลในประเทศ โดยเฉพาะในแง่ของการพัฒนาผู้เล่นรุ่นใหม่ที่อาจรู้สึกว่าถูกจำกัดความคิดสร้างสรรค์ นักวิจารณ์หลายคนกังวลว่าการบังคับใช้กฎที่เข้มงวดเกินไปอาจทำลายเอกลักษณ์ของฟุตบอลบราซิลที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก ในขณะเดียวกัน สมาคมฟุตบอลบราซิล (CBF) ยืนยันว่าเป้าหมายของพวกเขาคือการส่งเสริมการเล่นที่ยุติธรรมและเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ใช่การจำกัดความคิดสร้างสรรค์ พวกเขาเชื่อว่าการมีกฎที่ชัดเจนจะช่วยป้องกันความขัดแย้งและรักษาภาพลักษณ์ของลีกบราซิล ความขัดแย้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่กว้างขึ้นในวงการฟุตบอลทั่วโลก ที่พยายามรักษาสมดุลระหว่างความบันเทิงกับความเป็นมืออาชีพ ระหว่างการแสดงออกส่วนบุคคลกับการเคารพต่อคู่แข่ง และระหว่างประเพณีกับความทันสมัย ในขณะที่การถกเถียงยังคงดำเนินต่อไป แฟนฟุตบอลทั่วโลกจับตามองว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อลีลาการเล่นของนักฟุตบอลบราซิลในระยะยาวอย่างไร และวัฒนธรรม “โฆโก โบนิโต้” (Jogo Bonito) ที่ทำให้ บราซิล เป็นที่รักของแฟนฟุตบอลทั่วโลกจะยังคงอยู่หรือจะค่อยๆ เลือนหายไปภายใต้กฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น

ซานโดร โตนาลี และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ทำประตูช่วยนิวคาสเซิลเฉือนเบรนท์ฟอร์ด

ซานโดร โตนาลี และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ทำประตูช่วยนิวคาสเซิลเฉือนเบรนท์ฟอร์ด

ซานโดร โตนาลี และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ทำประตูช่วยนิวคาสเซิลเฉือนเบรนท์ฟอร์ด

ซานโดร โตนาลี (Sandro Tonali) ยิงประตูสุดสวยและ อเล็กซานเดอร์ อิซัค (Alexander Isak) ทำประตูที่ 20 ของเขาในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ช่วยให้นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (Newcastle United) บุกเอาชนะเบรนท์ฟอร์ด (Brentford) 2-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เสริมความหวังในการคว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แทงบอลออนไลน์

โตนาลียิงประตูชัยในนาทีที่ 74 จากมุมแคบใกล้เส้นข้างทางด้านขวา บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสุดสวย จนผู้รักษาประตูเบรนท์ฟอร์ด มาร์ก เฟล็คเค่น หมดสิทธิ์ป้องกัน

“พูดตามตรง มันเป็นการครอส 70% และยิง 30%” กองกลางทีมชาติอิตาลีกล่าว “มันเป็นจังหวะที่ยากสำหรับผู้รักษาประตู และก็ยากสำหรับผมด้วย แต่ก็มีโชคนิดหน่อย”

อิซัคทำประตูที่ 20 ของเขาในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ด้วยการเข้าชาร์จลูกเปิดของ เจค็อบ เมอร์ฟี ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก หลังจาก ไบรอัน เอ็มบิวโม แข้งเบรนท์ฟอร์ดที่เป็นเป้าหมายเสริมทัพของนิวคาสเซิล พลาดเสียบอล

ก่อนหน้านี้ กองหน้าชาวสวีเดนมีโอกาสทอง แต่กลับเลือกเปิดให้ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ โหม่งแทนที่จะยิงเอง ซึ่งลูกดังกล่าวถูกจับล้ำหน้าในที่สุด

เอ็มบิวโม ตีเสมอให้เบรนท์ฟอร์ดจากจุดโทษในนาทีที่ 66 หลังจากผู้รักษาประตูนิวคาสเซิล นิค โป๊ป ทำฟาวล์ โยอาน วิสซา ก่อนที่โตนาลีจะยิงประตูชัยให้ทีมเยือน

ช่วงท้ายเกม เบรนท์ฟอร์ดพยายามเร่งเครื่องและเกือบได้ประตูตีเสมอจากลูกโหม่งของ อีธาน พินน็อก ที่ชนเสา และยังมีการเช็ก VAR กรณี มิคเคล ดัมส์การ์ด ถูกทำฟาวล์ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 8 นาที ทำให้แฟนบอลนิวคาสเซิลต้องลุ้นกันจนวินาทีสุดท้าย แทงบอลออนไลน์

นิวคาสเซิลลงเล่นนัดแรกหลังจากคว้าแชมป์ลีกคัพที่เวมบลีย์ ซึ่งเป็นแชมป์ในประเทศครั้งแรกในรอบ 70 ปี ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ อันดับ 5 มี 50 คะแนน ตามหลังแชมป์เก่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 คะแนน แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด ขณะที่เบรนท์ฟอร์ดอยู่อันดับ 11 มี 41 คะแนน

“ชัยชนะครั้งนี้สำคัญมากต่อการลุ้นไปแชมเปียนส์ลีก พวกเรามีสัปดาห์ที่ดี และนี่เป็นการเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบ” โตนาลีกล่าว “ตอนนี้เรามุ่งเป้าไปที่การจบใน 5 อันดับแรกเพื่อคว้าตั๋วแชมเปียนส์ลีก”

ด้านเอ็มบิวโม ซึ่งยิงจุดโทษเข้า 10 จาก 10 ครั้งที่รับหน้าที่ยิง ยอมรับว่าเบรนท์ฟอร์ดควรได้อะไรมากกว่านี้ในเกมนี้

“เราทำผลงานได้ดี แต่สุดท้ายมันยังไม่พอ” เอ็มบิวโมกล่าว “เรารู้ดีว่าเกมนี้จะยากเพราะนิวคาสเซิลเป็นทีมที่แข็งแกร่ง แต่สุดท้ายผลการแข่งขันก็น่าผิดหวังและยากจะยอมรับ”

 

ฮาเมส โรดริเกซ วิจารณ์ฟีฟ่ากรณีเลอองถูกตัดสิทธิ์จากศึกสโมสรโลก

ฮาเมส โรดริเกซ วิจารณ์ฟีฟ่ากรณีเลอองถูกตัดสิทธิ์จากศึกสโมสรโลก

ฮาเมส โรดริเกซ วิจารณ์ฟีฟ่ากรณีเลอองถูกตัดสิทธิ์จากศึกสโมสรโลก

 

ฮาเมส โรดริเกซ (James Rodriguez) กัปตันทีมเลออง (Leon) และ เอดูอาร์โด เบริซโซ (Eduardo Berizzo) กุนซือของทีม เรียกร้องให้ ฟีฟ่า ทบทวนการตัดสิทธิ์สโมสรเลอองจากการแข่งขัน ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ

 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เลอองถูกตัดสิทธิ์จากทัวร์นาเมนต์ เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของหลายสโมสร (Multi-club Ownership)

 

ทั้ง เลออง และ ปาชูกา ซึ่งเป็นสองทีมจากเม็กซิโก สามารถผ่านเข้ารอบมาได้ แต่ทั้งสองสโมสรมีเจ้าของเดียวกัน คือ Grupo Pachuca ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎของฟีฟ่า www sbobet

 

“นี่เป็นความอยุติธรรมอย่างมาก” โรดริเกซกล่าวระหว่างแถลงข่าว

 

“หากพวกเขาตัดเราออกจากการแข่งขัน มันไม่ยุติธรรมเลย และจะกลายเป็นตราบาปของวงการฟุตบอล มีแฟนบอลที่ซื้อบัตรเข้าชมไปแล้ว และบางคนถึงกับเป็นหนี้เพราะตั๋วเหล่านั้น คุณจะบอกพวกเขาว่าตอนนี้ทีมของเราไม่ได้ไปแข่งขันได้ยังไง?”

 

โรดริเกซ เจ้าของรางวัล ดาวซัลโวสูงสุด (Golden Boot) ฟุตบอลโลก 2014 เพิ่งเซ็นสัญญา 1 ปีกับเลออง โดยหนึ่งในเหตุผลสำคัญคือเขาต้องการลงเล่นในศึกสโมสรโลกที่จัดขึ้นในสหรัฐฯ ช่วงซัมเมอร์นี้

 

“ผมมีความสุขที่ได้อยู่ที่นี่ ไม่ว่าเราจะได้เล่นในศึกสโมสรโลกหรือไม่ ผมก็ยังอยากอยู่กับทีมนี้ต่อไป” โรดริเกซกล่าว

 

“นี่เป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับผม ผมไม่เคยผ่านเข้ารอบฟุตบอลสโมสรโลกมาก่อน แต่แล้วก่อนการแข่งขันเพียงไม่กี่สัปดาห์ พวกเขากลับบอกว่าเราถูกตัดสิทธิ์ ผมหวังว่าฟีฟ่าจะทำอะไรสักอย่าง”

 

Grupo Pachuca ซึ่งเป็นเจ้าของสโมสรเลออง ได้ประกาศว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อ ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (CAS) ในเดือนหน้า

 

“CAS ควรตัดสินให้เราได้รับสิทธิ์ลงแข่งขัน” เบริซโซกล่าว

 

“เรามีสิทธิ์ที่จะแข่งขัน เราไม่ได้ทำผิดกฎใด ๆ นี่เป็นการตัดสินใจที่ไม่ยุติธรรม และยังมีเวลาแก้ไขเรื่องนี้”

 

ขณะนี้ฟีฟ่ายังไม่ได้ประกาศทีมที่จะมาแทนเลออง แต่สโมสร Liga Deportiva Alajuelense จากคอสตาริกาได้ยื่นข้อเสนอขอเข้าร่วมการแข่งขัน

 

โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว Alajuelense เคยเรียกร้องให้ฟีฟ่าบังคับใช้กฎการห้ามถือครองหลายสโมสร

 

“ทีมที่เสนอตัวมาแทนเราควรรู้สึกละอายใจ” อันเดรส กวาร์ดาโด กองกลางเลอองกล่าว

 

“นี่เป็นความอยุติธรรมอย่างร้ายแรง ถ้ามีใครที่ทำผิดพลาด นั่นก็คือฟีฟ่าเอง”

 

“การเป็นเจ้าของหลายสโมสรในเม็กซิโกมีมานานหลายปีแล้ว แต่ฟีฟ่าก็ยังอนุญาตให้เราลงแข่งขันมาตลอด”

 

ในเม็กซิโก นอกจาก เลออง และ ปาชูกา แล้ว ยังมีอีกหลายบริษัทที่ถือครองหลายสโมสรในลีกสูงสุด www sbobet

 

Grupo Caliente เป็นเจ้าของ คลับ ติฮัวนา และ เกเรตาโร

 

Grupo Orlegi เป็นเจ้าของ แอตลาส และ ซานโตส ลากูน่า

 

TV Azteca เป็นเจ้าของ มาซัตลัน และมีหุ้นบางส่วนใน พูเอบลา

 

ไทเลอร์ อดัมส์ คัมแบ็กสู่ทีมชาติสหรัฐฯ

ไทเลอร์ อดัมส์ คัมแบ็กสู่ทีมชาติสหรัฐฯ

ไทเลอร์ อดัมส์ คัมแบ็กสู่ทีมชาติสหรัฐฯ

 

เคยเป็นที่ต้องการของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ (Mauricio Pochettino) ที่เชลซี (Chelsea) กุนซือใหม่ของทีมได้แข้งคนสำคัญกลับมา

 

การกลับมาของ ไทเลอร์ อดัมส์ (Tyler Adams) ถือเป็นข่าวดีสำหรับทีมชาติสหรัฐอเมริกา และเขาน่าจะได้ลงสนามทันทีในศึก Concacaf Nations League

 

ทีมชาติสหรัฐฯ กำลังเตรียมลงแข่งขันรอบรองชนะเลิศของศึก Concacaf Nations League พบกับ ปานามา ในวันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคมนี้ โดยการแข่งขันจะมีขึ้นเวลา 19.00 น. ตามเวลาสหรัฐฯ (ET) ถ่ายทอดสดทาง Paramount+ อย่างไรก็ตาม รายชื่อทีมชุดนี้จะดูแตกต่างจากปกติ เนื่องจากขาดผู้เล่นหลักอย่าง โฟลาริน บาโลกัน, ริคาร์โด้ เปปี, เซอร์จินโญ่ เดสต์ และ เบรนเดน อารอนสัน แต่ข่าวดีคือ อดัมส์จะกลับมาประจำการในแดนกลางอีกครั้ง วิธีดูราคาบอล sbobet

 

อดัมส์ต้องต่อสู้กับปัญหาอาการบาดเจ็บที่ หลังและเอ็นร้อยหวาย ทำให้เขาไม่ได้ร่วมแคมป์ทีมชาติสหรัฐฯ นับตั้งแต่ศึก โคปา อเมริกา 2024 และการกลับมาครั้งนี้จะเป็นการลงสนามครั้งแรกของเขา นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว และยังเป็นโอกาสแรกที่เขาจะได้ลงเล่นภายใต้กุนซือคนใหม่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่

 

อดัมส์ถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่สำคัญที่สุดของทีมชาติสหรัฐฯ โดยเคยสวมปลอกแขนกัปตันทีมในศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ และตอนนี้เขากลับมาพร้อมช่วยทีมลุ้นแชมป์ Concacaf Nations League สมัยที่ 4 ติดต่อกัน

 

“มันรู้สึกดีมากที่ได้กลับมาสู่แคมป์ทีมชาติ เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกับผู้จัดการทีมคนใหม่ ผมเคยทำงานกับผู้จัดการทีมมาหลายคนในอาชีพของผม และตอนนี้การได้ร่วมงานกับอีกหนึ่งกุนซือระดับยอดเยี่ยมอย่างเมาริซิโอ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง” อดัมส์กล่าว

 

“ผมตื่นเต้นที่จะได้เรียนรู้กระบวนการและแนวคิดของเขา รวมถึงมุมมองของเขาต่อเกมการแข่งขัน แน่นอนว่าผมเคยแข่งขันกับทีมที่เขาเคยคุมมาแล้ว จึงพอรู้จักแนวทางการเล่นของเขาอยู่บ้าง”

 

“แต่ก่อนที่เราจะรู้ตัว ฟุตบอลโลกครั้งหน้าก็จะมาถึงแล้ว ดังนั้นเราต้องใช้ทุกช่วงเวลาของการฝึกซ้อมและทุกโอกาสที่เรามีให้คุ้มค่าที่สุด และต้องสร้างความแข็งแกร่งให้กับทีมต่อไป”

 

อดัมส์เป็นผู้นำทั้งในและนอกสนาม และการกลับมาของเขาจะช่วยทีมชาติสหรัฐฯ ได้อย่างมหาศาล ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นนักเตะที่ โปเช็ตติโน่เคยต้องการเซ็นสัญญาไปร่วมทีมเชลซี มาก่อน แม้ว่าดีลดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น แต่คุณสมบัติของเขาทั้งในแง่ของการเล่นเกมรับและการเชื่อมเกมในแดนกลาง จะช่วยเสริมความสมดุลให้กับทีมได้

 

แม้ว่ารูปแบบแดนกลางของสหรัฐฯ อาจแตกต่างจากชุด “MMA” ที่ประกอบด้วย เวสตัน แม็คเคนนี่, ยูนุส มูซาห์ และ อดัมส์ ซึ่งทำผลงานยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลก 2022 โดยเฉพาะเมื่อมูซาห์เริ่มถูกขยับไปเล่นเป็นปีกมากขึ้น แต่สิ่งนี้ไม่ได้ลดทอนบทบาทสำคัญของอดัมส์ลงเลย วิธีดูราคาบอล sbobet

 

การลงเล่นให้กับ บอร์นมัธ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นทีมที่กำลังลุ้นพื้นที่ไปเล่นฟุตบอลยุโรปในพรีเมียร์ลีก ทำให้ อดัมส์อยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมสำหรับเกมทีมชาติ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้แปลกใจกับสิ่งนี้

 

“นักฟุตบอลทุกคน ไม่ว่าจะฟิตหรือไม่ ก็ต่างต้องการจังหวะการเล่นและความสม่ำเสมอ” อดัมส์กล่าว “ตอนนี้ผมได้ความต่อเนื่องกลับมา และผมรู้ว่านั่นคือสิ่งที่ผมต้องการมาตลอด สำหรับผมแล้ว ไม่เคยมีข้อสงสัยเลยว่าผมจะกลับไปสู่ระดับที่ผมเคยอยู่ได้ มันแค่ใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้เท่านั้น”

 

“ตอนนี้ผมพยายามโฟกัสกับปัจจุบัน รักษาความสม่ำเสมอในสิ่งที่ทำ และผมรู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งขึ้นมากหลังจากที่ได้ลงเล่นต่อเนื่อง”

 

ความสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่ทีมชาติสหรัฐฯ กำลังพยายามสร้างขึ้นเช่นกัน และหากอดัมส์สามารถช่วยนำสิ่งนี้มาสู่ทีมได้ มันจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับฟุตบอลโลก 2026

 

เนื่องจากผู้เล่นที่อยู่ในแคมป์นี้หลายคน จะไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขัน Gold Cup ในช่วงซัมเมอร์ได้ เนื่องจากต้องรับใช้สโมสรในศึก Club World Cup ดังนั้น การใช้เวลาในแคมป์ทีมชาติครั้งนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเป็นสิ่งสำคัญ และการมี อดัมส์ที่ฟิตสมบูรณ์ จะช่วยให้ทีมชาติสหรัฐฯ พร้อมเดินหน้าต่อไป

 

ลามีน ยามาล สร้างประวัติศาสตร์ พาบาร์เซโลนา ทะลุรอบ 8 ทีมแชมเปียนส์ลีก

ลามีน ยามาล สร้างประวัติศาสตร์ พาบาร์เซโลนา ทะลุรอบ 8 ทีมแชมเปียนส์ลีก

ลามีน ยามาล (Lamine Yamal) แข้งดาวรุ่งของ บาร์เซโลนา (Barcelona) ยังคงสร้างความมหัศจรรย์ในสนาม ล่าสุดเขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ทำทั้งประตูและแอสซิสต์ในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก หลังช่วยทีมเอาชนะ เบนฟิกา (Benfica) 3-1 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา

ยามาล ฟอร์มเด่น ยิง 1 แอสซิสต์ 1 พาบาร์ซาเข้ารอบ

ในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง ยามาล (Yamal) วัยเพียง 17 ปีโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีส่วนร่วมกับ 2 ประตูสำคัญของทีม

  • แอสซิสต์สุดเฉียบ – ยามาลเลี้ยงบอลผ่านแนวรับของเบนฟิกา ก่อนจ่ายบอลให้ ราฟินญา (Raphinha) ยิงวอลเลย์เข้าไปอย่างสวยงาม
  • ประตูสุดสวย – ยามาลมีโอกาสยิงจากบริเวณกรอบเขตโทษ ก่อนบรรจงปั่นบอลโค้งหนีมือผู้รักษาประตูเข้าไปอย่างสมบูรณ์แบบ

หลังเกม ราฟินญา (Raphinha) กล่าวชื่นชมเพื่อนร่วมทีมว่า “เขาเป็นผู้เล่นที่มหัศจรรย์และมีพรสวรรค์สูงมาก”

ฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมของ ลามีน ยามาล 

ฤดูกาลนี้ ยามาล (Yamal) ทำไปแล้ว 28 ประตูและแอสซิสต์รวมกัน และใกล้แตะหลัก 60 ประตูในระดับสโมสรและทีมชาติ แม้จะมีอายุเพียง 17 ปี แต่เขาเล่นด้วยความมั่นใจและโดดเด่นในทุกเกมที่ลงสนาม

ฮันซี ฟลิค (Hansi Flick) กุนซือของบาร์เซโลนา กล่าวว่า “ประตูนี้มีความหมายกับเขามาก เพราะเขาไม่ได้ยิงมานานกว่า 6 เกม เราทุกคนดีใจกับเขา เพราะเขาเป็นเด็กที่ยอดเยี่ยมและมีความสามารถพิเศษ”

บาร์เซโลนา ลุ้นแชมป์แชมเปียนส์ลีก หลังเข้ารอบ 8 ทีม

ชัยชนะเหนือ เบนฟิกา (Benfica) ด้วยสกอร์รวม 4-1 ทำให้ บาร์เซโลนา (Barcelona) ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ และจะต้องเผชิญหน้ากับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (Borussia Dortmund) หรือ ลีลล์ (Lille) ในรอบต่อไป

แฟนบอลทั่วโลกต่างจับตามองว่าดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง ลามีน ยามาล (Lamine Yamal) จะสามารถพาทีมไปได้ไกลแค่ไหน และอาจเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ บาร์เซโลนา (Barcelona) คว้าแชมป์ยุโรปสมัยใหม่ได้อีกครั้ง!

หากคุณกำลังมองหา เว็บแทงบอลยูโร 2024 ที่ให้ราคาน้ำดีที่สุด ลองเลือกเว็บที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับการรับรองจากผู้เล่นทั่วโลก สนุกกับการเชียร์ทีมโปรดของคุณ พร้อมวางเดิมพันผ่าน เว็บแทงบอลยูโร 2024 ที่รองรับการใช้งานทั้งมือถือและคอมพิวเตอร์

วิตินญ่า

วิตินญ่า กร้าว เราจะบุกไปเอาชนะที่แอนฟิลด์ ให้ได้ หลัง เปแอสเช พ่ายหงส์ ทั้งที่บุกยิงกระจุย

วิตินญ่า (Vitinha) ดาวเตะ PSG ให้คำมั่นสัญญาหลังจากที่ ถูก ลิเวอร์พูล บุกมาคว้าชัยชนะในเกมเลกแรก คา พาร์ค เดอ แพรงต์  ทั้งที่ PSG ครองเกมเหนือ ลิเวอร์พูล (Liverpool)ในเกมเลกแรกของรอบ 16 ทีมสุดท้ายใน แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) แต่หงส์แดงกลับมีความได้เปรียบเล็กน้อยหลังจากการคว้าชัยชนะอย่างน่าทึ่งแบบฉกฉวยโอกาสเพียงครั้งเดียว วิตินญ่า (Vitinha) ดาวเตะของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (Paris Saint-Germain) หรือ PSG ยืนยันว่าทีมของเขาจะเอาชนะ ลิเวอร์พูล (Liverpool) ที่สนาม แอนฟิลด์ (Anfield) เพื่อพลิกสถานการณ์ในการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้ายของศึก แชมเปียนส์ ลีก 

หงส์แดงสามารถคว้าชัยชนะแบบฉกฉวยโอกาสได้อย่างสมบูรณ์ในเกมนี้

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าผลที่สนาม ปาร์ค เดส์ แพร็งซ์ (Parc des Princes) ในเกมเลกแรกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา PSG ครองบอลถึง 70 เปอร์เซ็นต์และยิงประตูถึง 27 ครั้งอย่างน่าตกใจ พร้อมทั้งผ่านบอลมากกว่า 600 ครั้ง แต่สุดท้าย กลับเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ วิตินญ่า (Vitinha) กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ คาแนล พลัส (Canal+) ว่า “มันเป็นเรื่องยากที่จะเล่นเกมแบบนี้ กับทีมแบบนี้ ที่มีโอกาสทำประตูเพียงครั้งเดียว ยิงเพียงหนึ่งครั้ง เราจะแสดงให้เห็นว่าเราเป็นทีมแบบไหน เราจะแสดงตัวตนของเรา”

“เราจะเอาชนะที่นั่น จากเกมที่เราเล่น ชัยชนะควรเป็นของเรามากกว่า เหมือนกับตอนต้นฤดูกาล เรามีโอกาสมากมาย แต่เราล้มเหลวในการทำประตู” ที่น่าแปลกใจคือ ความพ่ายแพ้เมื่อวันพุธเป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรกของ PSG นับตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน เมื่อพวกเขาพ่ายแพ้ 1-0 ในเกมเยือน บาเยิร์น มิวนิค (Bayern Munich) ในรอบลีกของ แชมเปียนส์ ลีก ทางเข้าsbo888 พวกเขาหวังที่จะทำได้ดีกว่าปีที่แล้ว เมื่อพวกเขาไปถึงรอบรองชนะเลิศ ทางเข้าsbo888 กุนซือ หลุยส์ เอนริเก้ (Luis Enrique) สะท้อนความคิดของดาวเตะ วิตินญ่า (Vitinha) โดยสนับสนุนทีมของเขาให้พลิกเกมในนัดที่สอง เขายืนยันว่าทีมของเขาแสดงผลงานได้ดีและเหนือกว่า ลิเวอร์พูล อย่างมาก

“มันยากที่จะพูดถึงเกมแบบนั้น เราครองเกมได้อย่างสมบูรณ์แบบ กับหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดใน ยุโรป (Europe) เราต้องคิดในแง่บวกและวิเคราะห์เกมพรุ่งนี้” หลุยส์ เอนริเก้ (Luis Enrique) กล่าวอย่างเสียดายกับ คาแนล พลัส (Canal+)

“แต่ผมพอใจกับผลงานของทีมและเราต้องคิดเกี่ยวกับการพลิกผลการแข่งขันนี้ ไม่ใช่เวลาที่จะมองอะไรในแง่ลบ เป็นเวลาที่จะภูมิใจในสีของเรา วันนี้ ผมคิดว่าเราแสดงให้เห็นว่าเราสามารถเล่นกับคู่แข่งไหนก็ได้”

“เราจะทำแบบเดียวกันในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า นักเตะที่ดีที่สุดของพวกเขาคือผู้รักษาประตู เราเล่นได้ดีกว่า ลิเวอร์พูล มาก! แต่พวกเขาชนะเกมนั้น มันไม่ยุติธรรมมาก”

“ผมไม่เห็นด้านลบใดๆ ผมภูมิใจในทีมของผมมาก ภูมิใจในนักเตะของผมมาก ยังมีเกมเลกสองที่จะเล่นที่ ลิเวอร์พูล เราจะไม่ยอมแพ้”

บุกเยอะยิงไม่ผ่านมือ ผู้รักษาประตู กับอีกทีมยิงโป้งเดียว ได้ประตูชัย

เกมระหว่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (Paris Saint-Germain) และ ลิเวอร์พูล (Liverpool) ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของ แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) เลกแรก เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความขัดแย้งในฟุตบอลระหว่างการครองเกมและประสิทธิภาพ PSG ครองบอลถึง 70% มีโอกาสยิงถึง 27 ครั้ง และผ่านบอลมากกว่า 600 ครั้ง แต่กลับไม่สามารถเจาะตาข่ายของ ลิเวอร์พูล ได้เลย ในขณะที่ หงส์แดง แทบจะไม่ได้ครองเกม แต่กลับใช้โอกาสเพียงหนึ่งเดียวที่มีได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาฟุตบอลที่แตกต่างกันระหว่างสองทีมยักษ์ใหญ่แห่ง ยุโรป (Europe) ผู้รักษาประตูของ ลิเวอร์พูล ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม กลายเป็นฮีโร่ของทีมในเกมนี้ ทำให้ความพยายามทั้งหมดของ PSG ต้องสูญเปล่า การเดินทางไปเยือนสนาม แอนฟิลด์ (Anfield) ในเกมเลกสองจะเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (Paris Saint-Germain) สนามที่มีชื่อเสียงในเรื่องบรรยากาศที่น่าเกรงขาม และประวัติศาสตร์อันยาวนานในการสร้างปาฏิหาริย์ในรายการ แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) อย่างไรก็ตาม วิตินญ่า (Vitinha) และเพื่อนร่วมทีมยังคงมั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถพลิกสถานการณ์ได้ หลุยส์ เอนริเก้ (Luis Enrique) ได้แสดงความเชื่อมั่นในตัวลูกทีมว่าพวกเขาสามารถเล่นกับคู่แข่งระดับใดก็ได้ การที่ PSG ไม่ได้พ่ายแพ้มาเป็นเวลานานก่อนเกมนี้ ก็เป็นข้อพิสูจน์ถึงคุณภาพและความแข็งแกร่งของทีม เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในเกมเลกสอง PSG จำเป็นต้องรักษาระดับการเล่นที่ดีเอาไว้ แต่ต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการทำประตู การจัดการกับแรงกดดันจากแฟนบอลเจ้าถิ่นที่สนาม แอนฟิลด์ (Anfield) และการหยุดการโต้กลับอันรวดเร็วของ ลิเวอร์พูล (Liverpool) จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ชัยชนะ